เกิดเป็นคนย่อมมีความทุกข์

0bd764b8fc7dd281f43eeb68b9ea2512 (3)

จะเป็นคนมีชื่อเสียงก็มีความทุกข์ เป็นคนธรรมดาก็มีความทุกข์ จะอยู่มุมไหนของโลกก็มีความทุกข์ ทุกข์น้อยทุกข์มากแตกต่างกันไป

สรุปเกิดเป็นคนนั้นแสนจะลำบาก ทุกข์บ้างสุขบ้างปะปนกันไป       มีเจ็บมีป่วย เกิดแก่เจ็บตาย! ใครๆย่อมรู้

ตอนมีชีวิตอยู่  เราต้องทำให้ตัวเองมีความสงบสุข
และแบ่งบันความสงบสุขให้กับคนรอบข้าง
เราต้องมีมุกให้เราขำขันและยิ้มได้บ้างในแต่ละวัน
และแบ่งบันคนรอบข้างให้เขายิ้มได้
เราต้องดูแลสุขภาพกายสุขภายใจของเราให้ดี และก็คอยดูแลใส่ใจคนรอบข้างให้เขาสุขสบาย
เราต้องปลอบตัวเองเวลาเราเศร้า
และเราก็ต้องคอยปลอบคนรอบข้างในบางเวลาที่เขาเศร้าและท้อใจ
เราไม่ท้อใจไม่ละเลยทอดทิ้งตัวเราเองเวลามีปัญหาและเราก็ไม่ทอดทิ้งคนรอบข้างเวลาเขาเจอะเจอกับปัญหาก็มีบางเวลาที่เราอาจให้สติเขาได้เช่นกัน
เรารักและยอมรับตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไขไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอก และเราก็รักและยอมรับคนรอบข้างและคนทั่วไปอย่างไม่มีเงื่อนไขได้เช่นกัน

การที่จะเป็นกัลยามิตรให้กับใครนั้น

d5e91f9902e866cf87ce40c243dab7b4 (5).jpg

การที่เราจะเป็นกัลยามิตรหรือเป็นแสงสว่างให้กับใครนั้น

เราจะต้องทำตัวเองให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ดีและปฏิบัติตนและรู้ธรรมโดยแท้เสียก่อนควรทำใจให้เป็นกลางอยู่เสมอ

และควรคำนึงถึงคำที่ว่า

“คำพูดที่ดีเป็นคำพูดที่ชั่วเมื่อไม่เหมาะกับการเวลาและบุคคล”

เช่น ถ้าคนที่เค้ากำลังสนุกจะออกไปเที่ยวทำไปกิจกรรมที่เค้าสนใจ ถ้าเราเอาธรรมมะไปเปิดให้เค้าฟังหรือไปแนะนำให้ เค้าก็คงไม่มาสนใจเลย มันเป็นการเสียเวลาเปล่าเพราะยังไม่ถึงเวลาที่เค้าจะสนใจธรรมนอกจากจะไม่มีประโยนช์อันใดแล้วยังจะเป็นผลเสียมากว่า  คนที่เราพยามแนะนำก็จะว่าเราไปตำหนิเค้าอีกก็จะเกิดการขัดใจและเป็นทุกข์เสียเปล่า แล้วอีกประการนึง  เรารู้อุปนิสัยคนที่เราใคร่จะสงเคราะห์รึเปล่า?ข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก!เพราะมันอาจจะเป็นการพูดกันคนละเรื่องอยู่กันคนละโลกก็จะเกิดความห่างเหินกันมากไปอีก

ไม่ว่าจะเป็นญาติสนิทมิตรสหายบุตรธิดาสามีคนในครอบครัว เราจะไม่เจาะจงบุคคลใดบุคคลนึงเลยทั้งสิ้น แต่บุคคลใดก็ตามที่ได้สระสมอัธยาศัยที่จะฟังธรรมเข้าใจเราจึงจะสามารถสงเคราะห์เค้าได้

คนที่เค้าเคยได้สร้างได้เคยทำมาแล้วเช่นเรา เท่านั้น เราถึงจะแนะนำให้เค้าได้

เราควรคำนึงถึงว่าเค้าสามารถเข้าใจในธรรมได้ขนาดไหนต้องไม่ใช่การยัดเยียดให้เป็นอันขาด

เมื่อเราทำได้อย่างนี้แล้วเค้าก็จะเข้าใจเองเมื่อถึงเวลา แต่ถ้าไม่ถึงเวลาก็ต้องปล่อยไปตามที่เค้าได้เคยสร้างมา เมื่อเราเข้าใจอย่างนี้แล้วเราก็จะไม่เกิดความทุกข์ร้อนเพราะเราไม่ไปหวังให้เค้าเป็นอย่างนั้นแต่ไม่เป็น เราก็จะไม่ผิดหวังและเบาสบายนั่นเอง

2016 - 1 (3)

บทแผ่เมตตาให้กับสัตว์เลื้อยคลาน บทสวด วิรูปักเข (ขันธะปะริตตะคาถา)

(บทแผ่เมตตา ให้พญานาค แบบเจาะจง)

บทสวด ขันธะปะริตตะคาถา

วิรูปักเขหิ เม เมตตัง เมตตัง เอราปะเถหิ เม
ฉัพยาปุตเตหิ เม เมตตัง เมตตัง กัณหาโคตะมะเกหิ จะ
อะปาทะเกหิ เม เมตตัง เมตตัง ทิปาทะเกหิ เม
จะตุปปะเทหิ เม เมตตัง เมตตัง พะหุปปะเทหิ เม
มา มัง อะปาทะโก หิงสิ มา มัง หิงสิ ทิปาทะโก
มา มัง จะตุปปะโก หิงสิ มา มัง หิงสิ พะหุปปะโก
สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา สัพเพ ภูตา จะ เกวะลา
สัพเพ ภัทรานิ ปัสสันตุ มา กิญจิ ปาปะมาคะมา

อัปปะมาโณ พุทโธ อัปปะมาโณ ธัมโม อัปปะมาโณ สังโฆ
ปะมาณะวันตานิ สิริงสะปานิ อะหิ วิจฉิกา สะตะปะที
อุณณานาภี สะระพู มูสิกา กะตา เม รักขา กะตา เม ปะริตตา
ปะฏิกกะมันตุ ภูตานิ โสหัง นะโม ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง
สัมมาสัมพุทธานัง ฯ

คำแปล คาถาขันธปริตร

ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับพญานาคทั้งหลายตระกูลวิรูปักข์ด้วย

ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับพญานาคทั้งหลายตระกูลเอราบถด้วย

ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับพญานาคทั้งหลายตระกูลฉัพยาบุตรด้วย

ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับพญานาคทั้งหลายตระกูลกัณหาโคตมกะด้วย

ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับสัตว์ทั้งหลายที่ไม่มีเท้าด้วย

ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับสัตว์ทั้งหลายที่มี ๒ เท้าด้วย

ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับสัตว์ทั้งหลายที่มี ๔ เท้าด้วย

ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับสัตว์ทั้งหลายที่มีหลายเท้าด้วย

สัตว์ไม่มีเท้าอย่าเบียดเบียนเรา สัตว์ ๒ เท้าอย่าเบียดเบียนเรา

สัตว์ ๔ เท้า อย่าเบียดเบียนเรา สัตว์หลายเท้าอย่าเบียดเบียนเรา

และขอสรรพสัตว์ที่หลายที่มีชีวิตทั้งปวง ที่เกิดมาทั้งหมดทั้งสิ้นด้วยกัน

จงเห็นซึ่งความเจริญทั้งหลายทั้งปวงเถิด โทษอันลามกใด ๆ อย่าได้มาถึงแล้ว แก่สัตว์เหล่านั้น

      พระพุทธเจ้า ทรงพระคุณไม่มีประมาณ พระธรรม ทรงพระคุณไม่มีประมาณ พระสงฆ์ ทรงพระคุณไม่มีประมาณสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลายคืองู แมงป่อง ตะเข็บ ตะขาบ แมงมุม ตุ๊กแก หนู เหล่านี้ล้วนมีประมาณจำกัด ไม่มากเหมือนพระรัตนตรัย เราได้กระทำความรักษาแล้ว เราได้กระทำความป้องกันแล้ว หมู่สัตว์ทั้งหลายจงหลีกไปเสีย เรานั้นได้กระทำความนอบน้อม ต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่ เราได้กระทำความนอบน้อมอยู่ ต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๗ พระองค์อยู่ ฯ

บทสวด ขันธะปะริตตะคาถาแบบ แปล

(หันทะ มะยัง ขันธะปะริตตัง ภะณามะ เส)
วิรูปักเขหิ เม เมตตัง
-ข้าพเจ้ามีเมตตาจิต กับงูตระกูลวิรูปักขะทั้งหลาย
เมตตัง เอราปะเถหิ เม
-ข้าพเจ้ามีเมตตาจิต กับงูตระกูลเอราปถะทั้งหลาย

ฉัพยาปุตเตหิ เม เมตตัง
-ข้าพเจ้ามีเมตตาจิต กับงูตระกูลฉัพยาปุตตะทั้งหลาย
เมตตัง กัณหาโคตะมะเกหิ จะ
-ข้าพเจ้ามีเมตตาจิต กับงูตระกูลกัณหาโคตมกะทั้งหลาย

อะปาทะเกหิ เม เมตตัง
-ข้าพเจ้ามีเมตตาจิต กับสัตว์ไม่มีเท้าทั้งหลาย
เมตตัง ทิปาทะเกหิ เม
-ข้าพเจ้ามีเมตตาจิต กับสัตว์ ๒ เท้าทั้งหลาย

จะตุปปะเทหิ เม เมตตัง
-ข้าพเจ้ามีเมตตาจิต กับสัตว์ ๔ เท้าทั้งหลาย
เมตตัง พะหุปปะเทหิ เม
-ข้าพเจ้ามีเมตตาจิต กับสัตว์ มีเท้ามากทั้งหลาย

มา มัง อะปาทะโก หิงสิ
-ขอสัตว์ไม่มีเท้า อย่าได้เบียดเบียนข้าพเจ้าเลย
มา มัง หิงสิ ทิปาทะโก
-สัตว์ ๒ เท้า ก็อย่าได้เบียดเบียนข้าพเจ้าเลย

มา มัง จะตุปปะโก หิงสิ
-ขอสัตว์ ๔ เท้า อย่าได้เบียดเบียนข้าพเจ้าเลย
มา มัง หิงสิ พะหุปปะโก
-สัตว์หลายเท้า ก็อย่าได้เบียดเบียนข้าพเจ้าเลย

สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา
-ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ผู้มีลมปราณ

สัพเพ ภูตา จะ เกวะลา
-และเหล่าภูตสัตว์ทั้งปวง ผู้หาลมปราณมิได้

สัพเพ ภัทรานิ ปัสสันตุ
-จะประสบแต่ความเจริญ ด้วยกันทั้งหมดเถิด
มา กิญจิ ปาปะมาคะมา
-อย่าได้รับโทษอันชั่วช้าใดๆ เลย

อัปปะมาโณ พุทโธ
-พระพุทธเจ้า ทรงมีพระคุณสุดที่จะประมาณ
อัปปะมาโณ ธัมโม
-พระธรรม มีพระคุณอันหาประมาณมิได้
อัปปะมาโณ สังโฆ
-พระสงฆ์ มีพระคุณที่สุดจะกำหนด

ปะมาณะวันตานิ สิริงสะปานิ
-สัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย อันมีประมาณคือ
อะหิ วิจฉิกา สะตะปะที
-งู แมงป่อง ตะขาบ

อุณณานาภี สะระพู มูสิกา
-แมงมุม ตุ๊กแก และหนู
กะตา เม รักขา กะตา เม ปะริตตา ปะฏิกกะมันตุ ภูตานิ
-ขอสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น จงหลบหลีกไปเสียเถิด
เพราะการรักษาป้องกัน อันข้าพเจ้าได้ทำไว้แล้ว
โสหัง นะโม ภะคะวะโต
-เพราะข้าพเจ้านั้น กระทำความนอบน้อม
แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่
นะโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานัง ฯ
-กระทำความนอบน้อม
แด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๗ พระองค์อยู่

คัดลอกจาก หนังสือมนต์พิธีแปล
รวบรวมโดย พระครูอรุณธรรมรังษี (เอี่ยม สิริวัณโณ)
วัดอรุณราชวราราม(คณะ๓) เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

เจริญพระพุทธมนต์ สวดมนต์เจ็ดตำนาน ขันธะปะริตตะคาถา (คาถาขันธปริตร)

ตำนานขันธปริตร (วิรูปักเขหิ เม)

      ภิกษุรูปหนึ่งถูกงูกัดตายในเมืองสาวัตถี ภิกษุทั้งหลายนำความไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าให้ทรงทราบ พระองค์จึงตรัสว่า ที่เป็นเช่นนั้นเพราะภิกษุมิได้แผ่เมตตาจิตไปยังตระกูลพญางูทั้ง ๔ หากแผ่เมตตาไปยังตระกูลพญางูทั้ง ๔ แล้วก็ยังไม่ถูกงูกัดตาย ตระกูลพญางูทั้ง ๔ คือ ตระกูลพญางูชื่อ วิรูปักข์ ๑ ตระกูลพญางูชื่อ เอราบถ ๑ ตระกูลพญางูชื่อ ฉัพยาบุตร ๑ ตระกูลพญางูชื่อ กัณหาโคตมกะ ๑ ต่อแต่นี้ไป เราอนุญาติให้ภิกษุทั้งหลายแผ่เมตตาจิตไปยังตระกูลพญางูทั้ง ๔ นี้ เพื่อคุ้มครองป้องกันตน

      บทพระบาลีที่มีนามว่า ขันธปริตร เป็นบทสำหรับสาธยายแผ่เมตตาจิต ไปยังตระกูลพญางูทั้ง ๔

ขอขอบพระคุณข้อมูลจากท่านผู้ที่เกี๋ยวข้องทั้งหลาย

2016 - 1 (3)

ผู้ทำการปฏิบัติธรรมที่ดี ที่จะก้าวหน้าได้นั้นจะต้องคำนึงถึง4ข้อนี้

273111a1c67c4d094cc6135ab1e510f5.gif

tumblr_inline_ok6mkj8yIL1tb66v5_540 (1).gif

1.ผู้ทำการปฏิบัติธรรมต้องฝึกให้มีความคิดที่จะบรรลุถึงการควบคุมตนเองในภาระหน้าที่ต่างๆทุกประการ จากหน้าที่เล็กๆ ในครอบครัวไปจนถึงหน้าที่สูงสุดในสังคมนี่เป็นเป้าหมายของการฝึกฝนตนเองเมื่อผู้ทำการปฏิบัติธรรมบรรลุถึงเป้าหมายดังกล่าว แล้วจะสามารถนำความผาสุกมาสู่ตนและผู้อื่นได้

2. ผู้ทำการปฏิบัติธรรมจะต้องผ่านการพิสูจน์จากครอบและสังคม เราจะต้องยอมรับในทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับสงคมและในครอบครัวของเรา แม้จะเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นกับตัวเราเองก็ตาม เราจะต้องคำนึงถึงการให้อภัยทานอยู่เป็นนิตร ทนต่อความทุกข์ยากทนต่อความเจ็บปวด ยิ่งทนได้มากเท่าไร อกุศลกรรมของเราก็จะหมดลงเร็วเท่านั้น ขณะที่เราทนต่อความทุกข์ยากได้อย่างใจเย็นมีสติและมีสมาธิ จิตวิญญาณของเราจะพุ่งสู่ระดับสูงขึ้น เมื่อจิตวิญญาณของเราพัฒนาเข้าสู่ ระดับสูงขึ้น ร่างกายของเราก็จะดูดซับพลังจักรวาลและพลังงานที่ดีเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น ในสภาวะเช่นนี้เราจะมีความสามารถมากพอที่จะบำบัดตัวเองหรือช่วยบำบัดสภาพจิตใจหรือสภาพร่างกายผู้อื่นที่มีวาสนาต่อกันได้ ถึงแม้ว่าคนเหล่านั้นจะมีโรคที่ยากต่อการรักษาก็ตาม ถ้ามีวาสนาต่อกันเราก็จะช่วยเขาให้หายได้นั่นเอง

3.ผู้ทำการปฏิบัติธรรมจะต้องให้ความรักต่อสัตว์โลกต่อเพื่อนมนุษย์ให้มากเทียบเท่ากับที่เรารักครอบครัวของเราเอง และต้องไม่แบ่งแยกชนชั้น ควรวางใจให้เป็นกลางเสมอไม่ลำเอียงแบ่งแยกต่อสิ่งใด

และ 4. ระหว่างการปฏิบัตินั้น ความคิดความคำนึงของเราควรจดจ่ออยู่ที่ตัวเราเองแก้ไขจุดที่ไม่ดีของเราเองปรับปรุงตัวเองให้อยู่ในศีล อยู่ในธรรมจดจ่ออยู่ที่คุณธรรมจดจ่ออยู่ที่คุณงามความดีที่เราได้สร้างจากใจ แล้วแผ่บุญกุศลที่ดีนี้ไปให้ทั่วถึงทั้งสามโลก,แผ่ความรักแบบไม่มีเงื่อนไขแผ่เมตไมตราจิตที่บริสุทธิ์จากใจนี้ให้หลั่งไหลไปให้ทั่วถึงทั้งสามโลกอย่างไม่มีเขตจำกัด เราต้องตั้งสมาธิให้แน่วแน่ และต้องไม่ยอมให้สภาวะแวดล้อมภายนอกทั้งหลายมาทำให้เราไขว้เขวเสียสมาธิได้

ถ้าผู้ทำการปฏิบัติธรรมมีสี่ข้อง่ายๆนี้ก็จะมีจิตที่สูงขึ้นเองและจะมีความก้าวหน้าในการฝึกตนสืบไป

ขอความผาสุขพึงมีแด่ทุกท่าน

ด้วยรักและปารถนาจากใจ

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านเพราะนี่เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลเท่านั้น

2016 - 1 (3)

 

 

 

ชีวิตจะดีถ้า

286110ed480cd8a141db3d235a7a4587.jpg.

ชีวิตจะดีมากถ้าเรามีความสุข

แต่ชีวิตจะดีมากกว่าถ้าคนอื่นมีความสุขได้เพราะเรา!

life is good if you are happy.

But life is better if others are happy because of you!

ขอขอบคุณบทความและภาพจาก Google

2016 - 1 (3)

จงค้นหาสิ่งที่สวยงามที่อยู่ในใจ

785777346568a6983934a89e28a4361f

จงค้นหาความงามที่อยู่ในใจตัวเองให้เจอ!แล้วคุณจะประหลาดใจว่า สิ่งที่คุณมองเห็นด้วยตาทั้งหลายนั้นก็จะกลายเป็นสิ่งที่สวยงาม

Find the beauty in your heart.  You will be surprised because the outside you see will turn out to be beautiful.

2016 - 1 (3)

ฟังนะจ๊ะลูกรัก!

I am ! ฉัน! คือ

I’m someone

Don’t believe…

17309287_282745758813667_8812781939674168529_nphatgiao-org_Tam_tu-bi_duc_Phat_TCMN-3

ฟังนะจ๊ะลูกรัก เจ้าคือความรักความเมตตาและความบริสุทธิ์
เจ้าจงอย่าลืมตัวเอง!

เจ้าจงมีความรักและความเมตตาต่อสัตว์โลกทั้งหลายด้วยใจที่บริสุทธิ์!

Listen to me my child!  You are love, compassion and innocence.

Do not forget yourself! Be loving and compassionate with the pure heart of all creatures!

tumblr_inline_on31j6aFDq1tb66v5_540.png

ฉันฟังอยู่! (แล้วคุณหละฟังอยู่มั้ย?)

I’m listening! (Are you listening?)

ขอความสงบจงมีแด่ท่าน

Peace be with you.

2016 - 1 (3)

 

 

 

I am ! ฉัน! คือ

download (83)

I am love ,

I am light,

I am peace,

I am below,

I am above,

I am everywhere! and I also inside you!

ฉันคือความรัก

ฉันคือแสงสว่าง

ฉันคือความว่าง    

ฉันคือความสงบ

ฉันอยู่ข้างบน

ฉันอยู่ข้างล่าง
ฉันอยู่ทุกหลทุกแห่ง และ

ที่สำคัญฉันอยู่ข้างในอยู่ในใจของทุกๆคน!

ด้วยรักและปารถนาดี

ขอความสงบพึงมีแด่ทุกท่าน

2016 - 1 (3)